วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

แกงจืดฟักใส่กระดูกหมู

ส่วนประกอบและเครื่องปรุงแกงจืดฟักใส่กระดูกหมู


  1. ฟักเขียวอ่อน 1 ลูกเล็ก ปอกเปลือกล้าง หั่นเป็นชิ้นให้เรียบร้อย
  2. เห็ดหอมแห้ง 4-5 ดอก (แช่น้ำให้นิ่ม หั่นเป็นชิ้น)
  3. กระดูกหมู 500 กรัม (ครึ่งกิโลกรัม)
  4. รากผักชีทุบ 5 ราก
  5. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
  6. ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  7. ผงปรุงรส 1 ก้อน (ใช้แบบไม่มีผงชูรส)
  8. กระเทียมปอกเปลือกทุบพอแตก 7 กลีบ
  9. แครอทและต้นหอมหั่น
ขั้นตอนการทำแกงจืดฟักใส่กระดูกหมู


  1. นำหม้อใส่น้ำสะอาดตั้งไฟ ใส่รากผักชีลงไป  
  2. พอน้ำเดือด ใส่กระดูกหมูลงไป ขั้นตอนนี้สำคัญ หลังจากใส่กระดูกหมูลงไปแล้ว เปิดไฟแรง ให้น้ำเดือดจัด แล้วหรี่ไฟลงทันที ใช้ไฟอ่อนๆ เคี่ยวกระดูกหมูประมาณ 30 นาที วิธีนี้จะทำให้น้ำต้มใส ไม่ขุ่น
  3. นำฟักอ่อนและเห็ดหอมใส่ลงไปปรุงรสด้วยเกลือป่น ผงปรุงรส  ซีอิ๊วขาว ชิมรสชาติตามชอบ
  4. ต้มต่อไปด้วยไฟอ่อนๆ จนฟักสุก และกระดูกหมูจะนุ่ม การสังเกตุดูฟักสุกนั้น เนื้อฟักจะใส นิ่ม ก็เป็นอันใช้ได้
  5. ชิมรสชาติปรุงรสตามชอบอีกครั้ง ใส่ต้นหอม ปิดไฟได้เลย
  6. ตักให้ถ้วย โรยผักชี เหยาะพริกไทยเล็กหน่อย

วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

วิธีทำความสะอาดผัดและผลไม้

วิธีทำความสะอาดผัดและผลไม้


การใช้น้ำส้มสายชูที่มีกรดน้ำส้มความเข้มข้น 5%ของกรดน้ำส้ม ผสมน้ำในอัตราส่วน 1:10 แช่นาน 10-15 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด สามารถลดปริมาณสารพิษลงร้อยละ 60-84 ข้อจำกัดคือ ผักอาจมีกลิ่นของน้ำส้มสายชูติดมา และผักบางอย่างเช่นผักกาดขาว ผักกาดเขียว อาจมีการดูดรสเปรี้ยวจากน้ำส้มสายชูทำให้รสชาติเปลี่ยนไป และภาชนะที่ใส่ผักล้างไม่ควรเป็นพลาสติก
     
       การใช้ด่างทับทิม (Potassium Permanganate) มีลักษณะเป็นเกล็ดแข็ง สีม่วง สามารถละลายได้ในน้ำ ให้สีชมพู หรือม่วงเข้ม เป็นสารประกอบประเภทเกลือ โดยใช้ปริมาณ 20-30 เกล็ด ผสมน้ำ 4 ลิตร แช่ไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดสามารถลดสารพิษลงได้ร้อยละ 35-43 ข้อจำกัดคือการใช้ด่างทับทิมในปริมาณที่มากเกินไปจะเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินอาหาร และหากสูดดมไอระเหยของด่างทับทิมเข้าไปมากก็จะทำให้ระบบทางเดินหายใจมีปัญหาได้ รวมถึงหากเข้าตาอาจทำให้ตาบอดได้
     
       ล้างผักโดยน้ำไหลผ่าน โดยเด็ดผักเป็นใบๆ ใส่ตะแกรงโปร่งเปิดน้ำให้แรงพอประมาณ ใช้มือช่วยคลี่ใบผักและถูไปมาบนผิวใบของผักผลไม้นานประมาณ 2 นาที สามารถลดสารพิษลงได้ร้อยละ 25-63 วิธีนี้เป็นวิธีที่เรียกได้ว่าดีมากวิธีหนึ่งแต่มีข้อเสียอยู่ว่าใช้เวลานานในการล้างและใช้น้ำปริมาณมาก
     
       ใช้เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 4 ลิตร แช่นาน 10 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดสามารถลดสารพิษลงได้ร้อยละ 27-38 วิธีการนี้ลดปริมาณได้ไม่มากและอาจมีเกลือและรสเค็มไปอยู่ในผักหรือผลไม้
     
       ใช้โซเดียมไบคาร์บอเนต (เบกกิ้งโซดา) 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำอุ่น 1 กะละมัง (20 ลิตร) แช่นาน 15 นาที แล้วนำไปล้างด้วยน้ำสะอาด ลดปริมาณสารพิษลงได้ถึงร้อยละ 90-95 ข้อจำกัดของการใช้เบกกิ้งโซดาคือมีส่วนผสมของโซเดียมอยู่และอาจดูดซึมเข้าสู่ผักหรือผลไม้ และหากล้างไม่สะอาดการได้รับเบกกิ้งโซดาในปริมาณมากเกินไปอาจทำให้ท้องเสียได้
     
       วิธีการต้มหรือลวกผักด้วยน้ำร้อน ลดปริมาณสารพิษได้ ประมาณร้อยละ 50 วิธีการนี้เป็นอีกวิธีที่ดีและปลอดภัยแต่จะทำให้ผักหรือผลไม้ เสียคุณค่าทางอาหารไปกับน้ำและความร้อน เช่น วิตามินซี วิตามินบี 1 ไนอะซิน
     
       การปอกเปลือกหรือการลอกชั้นนอกของผักออก เช่น กะหล่ำปลี ถ้าลอกใบชั้นนอกออกจะปลอดภัยมากกว่า แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดจะช่วยลดปริมาณสารพิษได้ร้อยละ 27-72
     
       วิธีการแช่ผักในน้ำยาล้างผักที่มีวางขายอยู่โดยใช้ความเข้มข้นประมาณ 0.3% ในน้ำ 4 ลิตร แช่ผักนานประมาณ 15 นาที จะลดปริมาณสารพิษฆ่าแมลงได้ร้อยละ 25-70 แต่วิธีนี้ต้องทำด้วยความระมัดระวังต้องดูให้ดีว่าน้ำยาล้างผักมีส่วนประกอบด้วยอะไรบ้าง เพราะในบางครั้งน้ำยาล้างผักจะแทรกซึมเข้าไปในผักซึ่งอาจเป็นอันตรายได้
     
       จะได้เห็นแล้วว่า แต่ละวิธีสามารถช่วยลดปริมาณของสารตกค้างที่อยู่ในผักและผลไม้ได้แต่ว่าจะเลือกวิธีไหนก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคน ปริมาณและชนิดของผัก-ผลไม้ที่ต้องการจะล้าง และเวลาที่มีอยู่ และที่สำคัญคือพยายามรับประทานผัก-ผลไม้ให้หลากหลายอย่ากินซ้ำๆกันเกินไป และเปลี่ยนร้านที่ซื้อผัก-ผลไม้บ้าง เนื่องจากหากมีพิษ หรือสารตกค้างในผักก็จะได้ไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายมากนัก

เนื้อผัดน้ำมันหอย

วิธีทำผัดเนื้อน้ำมันหอย

ส่วนผสมผัดเนื้อน้ำมันหอย
  • เนื้อวัวหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 350 กรัม
  • ผักคะน้า 200 กรัม
  • กระเทียมบด 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซิอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเฉียง 1 เม็ด
  • ต้นหอม 5 ต้น
  • น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซ๊อสหอยนางรม 3 ช้อนโต๊ะ
  • ไวน์สำหรับทำอาหาร 1 ช้อนโต๊ะ 
  • แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผักสดอื่นๆถ้าต้องการใส่เพิ่ม
  • น้ำมันพืช
วิธีการทำผัดเนื้อน้ำมันหอย
  1. ผสมเนื้อวัว, กระเทียม, ซิอิ๊วขาว, น้ำตาลและแป้งข้าวโพดเข้าด้วยกัน
  2. คนจนเข้ากันดี และหมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
  3. ใส่น้ำมันในกระทะและนำไปตั้งไฟร้อนปานกลาง นำเนื้อวัวที่หมักแล้วลงไปผัดจนเกือบสุก
  4. จึงใส่ผักคะน้า, พริก, ต้นหอม, ไวน์สำหรับทำอาหาร, และซ๊อสหอยนางรม
  5. ผัดจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี และเนื้อวัวสุก แล้วปิดไฟ

วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

มะระยัดไส้หมูสับตุ๋นเห็ดหอม

เครื่องปรุง

  1. มะระ 2 ลูก
  2.  หมูสับปรุงรส 200 กรัม
  3.  เห็ดหอมแห้ง 3 ดอก 
  4. ซุปไก่ก้อน ½ ก้อน 
  5. ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ 
  6. ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ 
  7. น้ำมันหอย 1 ช้อนชา
  8.  น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา 
  9. น้ำเปล่า 4 ถ้วย 


  1. เครื่องปรุงหมู
  2. สับปรุงรส
  3. หมูสับ 200 กรัม
  4. น้ำมันหอย 1 ช้อนชา
  5. ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  6. ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา
  7. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  8. พริกไทยป่น 1 ช้อนชา

วิธีทำมะระยัดไส้หมูสับตุ๋นเห็ดหอม

  1. 1. นำหมูสับมาผสมกับเครื่องปรุงต่างๆ คือน้ำมันหอย ซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส น้ำตาลทราย และพริกไทยป่น คลุกเคล้าเครื่องปรุงให้เข้ากับหมูสับ พักไว้
  2. 2. นำเห็ดหอมแห้งมาล้างฝุ่นผงออก นำไปแช่น้ำประมาณ 2 ถ้วยประมาณ 30 นาทีหรือจนเห็ดหอมนิ่ม เมื่อเห็ดหอมนิ่มได้ที่แล้วให้บีบน้ำออก (อย่าทิ้งน้ำแช่เห็ดนะคะ) ตัดก้านส่วนที่แข็งออกแล้วหั่นเป็นชิ้นขนาดพอคำ
  3. 3. นำมะระไปล้างน้ำให้สะอาด สะเด็ดน้ำ ตัดหัว ตัดท้าย แล้วหั่นเป็นท่อนๆและประมาณ 2 นิ้ว ใช้ปลายช้อนควักไส้ออกให้หมด
ขั้นตอนการปรุงมะระยัดไส้หมูสับตุ๋นเห็ดหอม